เทรนด์การแต่งหน้าล่าสุดในปี 2022 จากซีรีย์ชื่อดัง Euphoria

โลกแห่งความงามกำลังเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเทรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามาและออกไป ดังนั้นหากคุณสงสัยว่าเทรนด์การแต่งหน้าล่าสุดในปี 2022 คืออะไร อ่านต่อ! ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่เปลี่ยน เทรนด์การแต่งหน้าก็กำลังพัฒนาเช่นกัน มันไม่ได้เป็นเพียงการปกปิดข้อบกพร่องของคุณอีกต่อไป แต่มันเกี่ยวกับการเน้นความงามตามธรรมชาติของคุณและทำให้ตัวเองโดดเด่น โชว์ความเป็นตัวเองอย่างสนุกสนานมากยิ่งขึ้น แม้ในปี 2022 เทรนด์ลุคที่เป็นธรรมชาติจะยังคงได้รับความนิยมอยู่ แต่ก็มีสไตล์ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจาก ซีรีย์วัยรุ่นชื่อดังของฝรั่งอเมริกา อย่าง Euphoria Style Makeup จะเป็นการแต่งหน้ารูปแบบใหม่ และมาแรงที่สุด จนเป็นเทรนด์ยอดนิยมของวัยรุ่นต่างประเทศไปแล้ว สไตล์นี้โดดเด่นด้วยสีสดใสและเส้นหนาเด่นชัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโดดเด่นท่ามกลางฝูงชน เทรนด์การแต่งหน้าจะมีสีสันมากขึ้นในปี 2022 Euphoria Style Makeup การแต่งหน้าแบบ play safe จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว และการเลือกสีจะมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแสดงออกถึงความเป็นตัวเองและความเป็นตัวของตัวเองที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่สีสันสดใสไปจนถึงเฉดสีเมทัลลิก นี่คือลุคสุดฮอตที่จะเข้ามาแทนที่ฟีด Instagram ของคุณ 1) สีสดใส: สีสันสดใสเป็นสิ่งที่ต้องมีในปีนี้เนื่องจากเพิ่มป๊อปอัพให้กับทุกลุค สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับพวกเขาคือทุกคนสามารถสวมใส่ได้ไม่ว่าสีผิวหรือสีผมจะเป็นอย่างไร! 2) กลิตเตอร์: กลิตเตอร์มีมานานแล้วแต่กำลังจะกลับมาในปีนี้ ในโลกของการแต่งหน้า มักใช้สีสันสดใสเพื่อเพิ่มสีสันให้กับใบหน้า เทรนด์การแต่งหน้าที่สดใสที่สุดคือการใช้ลิปสติกหรืออายแชโดว์สีสดใส อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถใช้ทาเล็บและผมได้อีกด้วย!

เทรนด์ความงามผิด ๆ จาก Tiktok ถ้าไม่อยากหน้าพังมาดู!

แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่นิยมสุด ๆ ตอนนี้คงหนีไม่พ้น Tiktok ที่มีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 1,000 ล้านบัญชีซึ่งก็ถือได้ว่าเยอะมาก ๆ และด้วยการเข้าถึงที่ง่าย แถมอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มนี้ก็ค่อนข้างฉลาด จึงผุดไอเดียทำแชนแนลเพิ่มยอดฟอล เดบิวต์กันเป็น Tiktoker รัว ๆ โดยคอนเทนท์ที่นิยมทำก็เห็นจะเป็นด้านความงามเสียส่วนมาก เพราะนอกจากกลุ่มเป้าหมายจะเยอะ ยอดเอนเกจยังดี จนต้องเร่งหาคอนเทนท์แปลกใหม่มาเสนอ ผลที่ได้คือ “เทรนด์บิวตี้” ที่ครีเอทจนดูแปลก มาดูกันดีกว่าว่าเทรนด์ไหนบ้างที่ทำตามมีหน้าพัง แบบไม่ได้จริง ๆ เลยพี่สาว! ไพรเมอร์คุมมันทั้งวันด้วย “คารามาย โลชั่น” …หาทำไปไหม เทรนด์จาก TikToker ฝั่งตะวันตกที่อยู่ ๆ ก็เป็นกระแสมาแรงที่เคลมถึงการใช้คารามาย โชั่นต่างไพรเมอร์ว่าดี คุมมันได้ทั้งวัน ชนิดที่ผิวหน้าแห้งแบบสุด ๆ พอเห็นแบนี้ก็ต้องร้อนถึงแพทย์ผิวหนังที่ต้องออกมาเตือนกันให้ด่วน ว่าคารามาย โลชั่นที่ใช้กันเนี่ย เดิมทีมันคือยารักษาสำหรับผิวหนังที่โดนแมลงกัดต่อย ผื่นแพ้ แถมยังมีผลทำให้ผิวแห้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเอามาใช้แทนด้านความงามได้นะ! เพราะถ้าใช้มากเกินไป มันจะไปทำให้ผิวแห้ง แถมทำลายชั้นป้องกันผิว สาเหตุที่ทำให้ผิวพัง ต้องมานั่งแก้ปัญหาสิว ผิวลอกกันอีก ดังนั้นอย่าหาทำเชียว! คอนทัวร์หน้าด้วยครีมกันแดด ปล่อยผิวแทนแค่บางส่วน…ถามจริง? …

เคล็ดลับการสร้างสุขภาพจิตที่ดี ทำได้ง่ายๆ เพื่อชีวิตที่สดใส 

  เพราะในการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันที่เราต้องเจอกับเรื่องปวดหัวและความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานและการใช้ชีวิต ยิ่งถ้าใครที่ต้องเจอกับมรสุมต่างๆ ที่ต้องแก้ปัญหา อาจเกิดอาการท้อแท้ หรือถึงขั้นห่อเหี่ยว จนสุดท้ายอาจทำให้เรากลายเป็นโรคซึมเศร้าขึ้นมาก็เป็นได้    เรามาลองฝึกกระบวนการคิดกันหน่อย เพราะปัญหาเหล่านี้อาจทำให้แรงใจของคุณห่อเหี่ยวได้ในระยะยาว ซึ่งสุดท้ายแล้วอาจสร้างผลลัพธ์ที่อาจก่อปัญหาร้ายแรงและอาจสายเกินแก้ 1. หยุดโหมทำงานอย่างหนัก    หนึ่งในวิธีการเลือกความสดใสของคุณให้กลับคืนมาก็คือ การหยุดพักสักนิดกับการทำงาน เราไม่ได้บอกว่าให้คุณหยุดทำงานไปเลย แต่เพียงอยากจะแนะนำว่า ให้ลองพักสักหน่อย ลองสังเกตตัวเองดูว่า ตอนนี้คุณเครียดกับงานมากน้อยแค่ไหน หากรู้สึกว่าเครียดมากและกำลังเลยเถิดไปถึงขั้น Burn Out คุณอาจจะต้องวางแผนกับการทำงานของตัวเองเสียใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลให้กับการใช้ชีวิต ลองขอเวลานอกจากบอสสักครึ่งหรือหนึ่งเดือน เพื่อเปิดโอกาสให้คุณได้พัก หรือจะนอนพักอยู่บ้านแบบสบายๆ เลือกดูหนังซีรีย์ที่ไม่เคยได้มีโอกาสได้ดูมานาน เพื่อให้คุณรู้สึกได้ชาร์จพลัง สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้สุขภาพจิตที่ย่ำแย่ และกำลังรอเวลาระเบิดให้ลดลงได้อย่างเห็นผล  2. ออกห่างจากความสัมพันธ์ Toxic    หนึ่งปัญหาที่หลายๆ คนเจอ แล้วรู้สึกถึงความเก็บกดภายใน นั่นก็คือการมีเพื่อนที่คอยเหยียบย่ำน้ำใจคุณอยู่ตลอดเวลา รวมถึงชอบพูดจาสอดเสียด ดูถูก หรือด้อยค่าคุณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกเฉยๆ และบอกตัวเองว่าไม่เป็นอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณได้รับคำพูดร้ายๆ จากคนใกล้ตัวหรือเพื่อนของคุณมากขึ้น จิตใต้สำนึกของคุณอาจจะเกิดแรงต้าน และรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ จนกลายเป็นความเครียดและไม่อยากออกไปเจอใครในที่สุด เราขอบอกว่า …

เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร! ด้วยกลิ่นหอมซิกเนอเจอร์ที่เป็นตัวเรา

ฉีดน้ำหอมกลิ่นเดียวกันสิบคน แต่ความหอมที่ติดตัวกลับมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ในขณะที่บางคนก็กลายเป็นกลิ่นที่ไม่เข้ากับตัวตนของพวกเขาเสียอย่างนั้น นั่นเป็นเพราะเรื่องของกายภาพ เคมีความเข้ากันของอุณหภูมิผิวหนัง และน้ำหอมที่จะทำปฏิกิริยาทิ้งกลิ่นติดผิวเอาไว้แบบเฉพาะตัว ซึ่งถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หอมชนิดที่ไม่มีใครเหมือน แถมยังติดทนเดินไปไหนใครก็เหลียวมองตาม ลองมาดูทริคดี ๆ ที่จะช่วยค้นหากลิ่นหอมที่เป็นซิกเนเจอร์ของตัวคุณกัน เลือกกลิ่นที่ชอบ ทดลองกลิ่นที่ใช่ ความชอบมันต้องไปด้วยกันกับความเหมาะสมที่จะล็อกติดกับผิวของคุณได้อย่างไม่ขัดแย้งกันเอง เพราะบางคนอาจจะเลือกกลิ่นจากความชอบเป็นอันดับแรกหลังจากได้ทดลองดมกลิ่น แต่เมื่อละอองความหอมนั้นได้ถูกพรมลงบนผิว กลิ่นที่เคยชอบกลับไม่สามารถไปกันได้ด้วยดีกับตัวคนเสียอย่างนั้น ดังนั้นถ้าได้เลือกกลิ่นที่ชอบแล้ว ก่อนจะซื้อเราขอแนะนำให้คุณลองฉีดลงบนผิวและเดินเล่นรอเป็นเวลา 20-30 นาที เพื่อรอให้กลิ่นน้ำหอมผสมผสานกับเคมีประจำตัว จนค้นพบกลิ่นที่แท้จริง หากคำตอบคือถูกใจล่ะก็ พุ่งตัวไปช็อปกลับบ้านได้เลย! จดจำโทนกลิ่นที่เข้ากับตัวคุณ  ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถไปกันได้กับหลากหลายโทนกลิ่นหอม แต่เราเชื่อว่าจะมีหนึ่งโทนกลิ่นที่สามารถไปได้ดีกับตัวของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะฉีดโทนกลิ่นนี้เมื่อไหร่ก็จะเผยเสน่ห์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ ดูเป็นกลิ่นประจำตัวที่ไม่ว่าใครก็ต้องจดจำได้ ซึ่งโทนกลิ่นก็สามารถแบ่งได้หลัก ๆ อยู่ประมาณ 8 โทน คือ Floral (ดอกไม้), Citrus (ซิตรัท), Fruity (ผลไม้), Oriental (โทนเครื่องเทศ), Woody (โทนไม้), Aromatic (โทนสมุนไพร), Leather (เครื่องหนัง) และ Gourmand (ขนมหวาน) ลองสังเกตดูว่าตัวเองมักจะถูกโฉลกกับโทนกลิ่นไหนด้วยการศึกษาน้ำหอมปัจจุบันที่ใช้ผ่านการอ่านโน้ตกลิ่นก็ได้เช่นกัน …

โอม จงหายปวดคอ! HOW TO เลือกหมอน…ให้หลับสบายได้ชาร์จพลังเต็มที่ 

แค่หลับสนิทชีวิตก็ดี! ใครๆ ก็อยากนอนหลับพักผ่อนให้สบายหลังจากทำงานมาเหนื่อยทั้งวันจริงไหม? ปฏิเสธไม่ได้ว่าการคุณภาพการนอนส่งผลโดยตรงกับสุขภาพกายและใจของเรา หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่เป็นตัวแปรของการนอนที่ดีและถูกสุขลักษณะก็คือ “หมอนหนุน” ใครว่าหมอนใบไหนๆ ก็เหมือนกัน ไม่จริงนะ ตามมาดูวิธีเลือกหมอนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเรากัน เตรียมตัวลืมเรื่องปวดคอหรือนอนหลับไม่สนิทไปได้เลย เช็ก…คุณภาพและวัสดุ หมอนแต่ละแบบทำขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกันเพื่อให้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของการใช้งาน เนื่องจากวัสดุแต่ละชนิดจะส่งผลให้หมอนมีความนุ่ม การคืนตัว และการระบายอากาศที่ต่างกัน ดังนั้นการเลือกวัสดุและคุณภาพของหมอนที่เราจะใช้นอนจึงเป็นสิ่งแรกที่เราต้องคำนึงถึง โดยวัสดุสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ หมอนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ  หมอนขนสัตว์ เช่น ขนเป็ด ขนห่าน มีสัมผัสที่นุ่มแต่มีกลิ่นเฉพาะตัว เข้าถึงช่องว่างระหว่างคอและที่นอนได้ดี หมอนใยธรรมชาติ เช่น ใยฝ้าย มีลักษณะนุ่มและแน่น เมื่อใช้ไปนานๆ จะยุบตัว ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการปวดคอ หมอนเมล็ดพืช เช่น เมล็ดถั่วต่างๆ ช่วยระบายอากาศได้ดีและปรับตามสรีระของผู้นอน หมอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ หมอนใยสังเคราะห์ มีความนุ่มเบาและรองรับศีรษะได้ดี  หมอนยางพาราและหมอนโฟม มีลักษณะนุ่มและแน่น ไม่สามารถโดนน้ำหรือตากแดดได้ เช็ก…ความสูงและท่านอน หมอนที่สูงหรือต่ำเกินไปและไม่เหมาะสมกับสรีระ จะทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ปวดเมื่อยคอและหลังได้ การเลือกความสูงของหมอนสามารถพิจารณาจากท่านอนได้ นอนหงาย ควรใช้หมอนที่มีความนุ่มแน่น ไม่สูงมาก และรองรับกระดูกคอได้ดี นอนตะแคง …

โยคะ vs พิลาทิส ต่างกันอย่างไร แบบไหนใช่เรา?

หลายคนคงรู้จักและคุ้นหูกันดีกับ โยคะ (Yoga) และ พิลาทิส (Pilates) ที่เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมทั้งคู่ แต่ก็มักจะสับสนอยู่บ่อยๆ ว่าการออกกำลังกาย 2 ประเภทนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะกับน้องใหม่ในวงการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย ซึ่งในความเป็นจริงโยคะและพิลาทิสเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่มีความคล้ายกัน คือ เน้นความแข็งแรง ความสมดุล และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ โดยใช้การหายใจเข้ามาช่วยในการทำท่าต่างๆ แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่หลายข้อ ดังนี้ 1.การโฟกัส โยคะ – โฟกัสจิตใจให้สงบ ใช้ลมหายใจเป็นตัวเชื่อมระหว่างการเคลื่อนไหวของท่าทางการออกกำลังกายและจิตใจ โดยกำหนดการหายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางจมูก พิลาทิส – โฟกัสแกนกลางของร่างกาย ใช้ลมหายใจเป็นตัวช่วยให้ออกกำลังกายได้ดีขึ้น โดยกำหนดการหายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปาก 2.ส่วนที่มุ่งเน้น โยคะ – มุ่งเน้นการสร้างความยืดหยุ่นและความอ่อนตัวให้กับกล้ามเนื้อและระบบภายในร่างกาย ช่วยบำบัดจิตใจให้ผ่อนคลาย ลดความเครียดและความกังวลได้ดี พิลาทิส – มุ่งเน้นการเพิ่มความแข็งแรง และสร้างความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย เน้นบริหารลำตัวสร้างความสมดุล สามารถใช้บำบัดร่างกายจากอาการบาดเจ็บหรืออาการปวดเมื่อยได้ 3.อุปกรณ์ โยคะ – เสื่อโยคะ พิลาทิส – เสื่อ, อุปกรณ์ที่ผลิตเพื่อการเล่นพิลาทิส 4.ประโยชน์ โยคะ – ฝึกสมาธิ …